ภาคตะวันออก นอกจากจะเป็นแหล่งผลไม้ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกองแล้ว ผล “หมาก” ยังเป็นพืชเศรษฐกิจ มีพื้นที่ปลูก 5,565 ไร่ คิดเป็น 15% ของประเทศ 4 อันดับจังหวัดที่ปลูกมากที่สุด คือ ฉะเชิงเทรา 2,879 ไร่ จันทบุรี 903 ไร่ ระยอง 888 ไร่ ตราด 826 ไร่ (สำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 3 จังหวัดระยอง) หมากทำรายได้เงียบๆ ให้ประเทศปีละกว่า 5,000 ล้านบาท สร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูก พ่อค้าที่รับซื้อ-ขายส่งให้พ่อค้าต่างประเทศ จีน อินเดีย พม่า เวียดนาม ดูไบ ที่มารับซื้อถึงบ้าน หมากนอกจากบริโภคแล้วยังเป็นวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมฟอกหนัง เส้นใย ทำสีย้อมแห ย้อมอวน สกัดทำยาสมุนไพร ยารักษาโรค ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในรอบ 2-3 ปีราคาพุ่งสูงขึ้นทุกปี ทำให้เกษตรกรมีแนวโน้มที่จะมีการปลูกเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นพืชแซมสวนผลไม้
คุณณรงค์สิชณ์ สุทธาทิพย์ อยู่บ้านหนองป่าหมาก หมู่ที่ 7 ตำบลสองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เล่าว่า มีอาชีพหลักทำสวนผลไม้ และหันมาทำอาชีพเสริมรับซื้อ-ขายหมากสด หมากแห้งมาเป็นปีที่ 5 โดยมีลูกสาว คือ “น้องหนิง” คุณจุฑามณี สุธาทิพย์ ที่ช่วยดูแลสวนอยู่ และลูกชาย “ดวงดี” คุณปุณยวัจน์ สุธาทิพย์ ที่เรียนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 2 กลับมาเรียนออนไลน์ที่บ้านเป็นผู้ช่วยเพิ่ม โดยเห็นว่าพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและจังหวัดใกล้เคียงมีหมากจำนวนมาก และเป็นที่ต้องการของพ่อค้าต่างประเทศ ร้านหรือแผงรับซื้อรายใหญ่ๆ ยังมีไม่มาก มีเครือข่ายพ่อค้ารายย่อยที่จะรับซื้อจากชาวบ้าน ทั้งหมากสุกและหมากแห้ง เพื่อทำหมากแห้งคุณภาพ 100% ขายให้พ่อค้าไทยที่ส่งออกและพ่อค้าต่างประเทศที่รับซื้อโดยตรง เช่น อินเดีย จีน พม่า เวียดนาม ดูไบ
การทำหมากแห้งให้ได้มาตรฐาน 100% จะขายได้ราคาดีและมีลูกค้าเชื่อมั่นเป็นลูกค้าประจำ ราคาหมากแห้งในช่วง 2-3 ปีมานี้ตลาดมีความต้องการสูงทำให้ราคาตลาดดีมาก ตั้งแต่ช่วงก่อนถึงฤดูกาลในเดือนธันวาคม-มกราคม ปี 2564 ราคารับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท สูงกว่าปีที่แล้ว ราคา 35-40 บาท และราคาเฉลี่ยทั้งปี 60 บาทมีช่วงสั้นๆ ที่หมากขาดจะสูงถึง 100 บาท คาดว่าปีนี้ราคาเฉลี่ยน่าจะถึง 70 บาท
รับซื้อหมากสุก หมากแห้ง
ทำหมากแห้ง 100% ส่งออก
คุณณรงค์สิชณ์ หรือเรียกกันคุ้นชินว่า “รองเหล็ง” เพราะเคยเป็นรองนายก อบต.สองพี่น้อง อำเภอท่าใหม่มาก่อน เล่าว่า ในการหาซื้อวัตถุดิบและการตลาดมีน้องสาว “น้องโอ๋” คุณทิพวรรณ สิทธิประสงค์ เป็นผู้ช่วยทุกด้าน หมากที่ซื้อมี 2 ชนิด คือ หมากสุกที่ซื้อมาจากชาวบ้านหรือพ่อค้ารายย่อยเป็นลูกๆ ตอนนี้ราคากิโลกรัมละ 10 บาท และหมากแห้งแกะเปลือกออกตากแห้งแล้ว ราคา 50 บาท แต่หมากแห้งที่รับซื้อมาต้องคัดเกรด และรับซื้อราคาต่างกันแบ่งเป็น 3 เกรด คือ เกรดคุณภาพ A กิโลกรัมละ 50 บาท หมากลาย 10-20 บาท เป็นหมากอ่อนไม่สมบูรณ์มีน้ำหนักเบา สีดำ และหมากเสียกิโลกรัมละ 5 บาท ที่เม็ดยังติดเปลือกไม่ร่วง หากชาวบ้านคัดคุณภาพดีเกรด A มา จะได้ราคาดี ถ้ามีหมากเสีย หมากลายปะปนเล็กน้อยจะรับซื้อราคาถัวเฉลี่ย 48 บาทลงมา ซึ่งต้องนำมาคัดแยกออกให้หมด ทั้งหมากสุกและหมากแห้งที่รับซื้อต้องผ่านกระบวนการตากแดด อบแห้ง คัดไซซ์ เพื่อสร้างสินค้าคุณภาพ 100% ให้พ่อค้าส่งออกที่มารับซื้อเชื่อมั่น ให้ราคาดีและซื้อสินค้าของเราต่อเนื่อง
หมากภาคตะวันออก ลูกใหญ่กลม สวย เนื้อมาก
ได้ราคา สต๊อกแต่ละปี 60-80 ตัน
คุณณรงค์สิชณ์ เล่าว่า หมากภาคตะวันออกส่วนใหญ่เป็นพันธุ์พื้นบ้าน ลักษณะลูกใหญ่กลม สวย เนื้อมาก เป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศได้ราคาดี ต่างจากหมากจากภาคอีสาน หรือหมากอินโดนีเซียลูกเล็กกว่าและออกสีดำๆ ราคาจะต่ำกว่า 10-15 บาทต่อกิโลกรัม หมากภาคอีสานจะลูกเล็กกว่าราคาต่ำกว่า 5-10 บาท พ่อค้าที่รับซื้อบางรายนำมาผสมปะปนกัน การทำหมากแห้งนั้นต้องเน้นคุณภาพให้แห้ง 100% ปลอดภัยไม่มีมอด ใช้เครื่องคัดขนาด 3 ไซซ์ เล็ก กลาง ใหญ่ ให้ตรงกับความต้องการของพ่อค้า
ซึ่ง ลูกชาย “ดวงดี” ลูกสาว “น้องหนิง” ช่วยดูแลกัน ทำเพจ เฟซบุ๊ก เพื่อทำการตลาดในโซเชียล ทั้งรับซื้อและขายให้พ่อค้าส่งออกและพ่อค้าต่างประเทศ มีคลิปวิดีโอเผยแพร่ให้เห็นกระบวนการทำหมากแห้งคุณภาพ 100% การใช้ภาษาอังกฤษเพื่อสื่อสารกับพ่อค้าต่างชาติให้รู้จักและติดต่อกลับมา ได้ผลดีมีพ่อค้าต่างประเทศจะติดต่อขอเข้ามาดูสินค้า เสนอราคาก่อนมีออเดอร์ ปีนี้ตลาดมีความต้องการสูงทำให้ราคาตลาดดีมาตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้ และน่าจะราคาดีขึ้นเมื่อถึงฤดูกาลเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ตอนนี้ราคารับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท สูงกว่าปีที่แล้วราคา 35-40 บาท และราคาเฉลี่ยทั้งปี 60 บาท คาดว่าปีนี้น่าจะถึง 70 บาท เพราะมีการขายหมากสด หมากเขียวกันมาก ปริมาณหมากแห้งน่าจะน้อยกว่าปีก่อน
“การรับซื้อหมากแห้งมีทั้งหมากรายวันซื้อมาขายไป กับรับซื้อสต๊อกเก็บไว้แต่ต้องไม่สต๊อกข้ามปีเพราะจะมีมอดกิน มีพ่อค้าที่ติดต่อซื้อขาย 8-10 ราย ส่วนใหญ่ออเดอร์คนละ 4-10 ตัน ประมาณ 2 หรือ 4 สัปดาห์ครั้ง สต๊อกที่มีอยู่จะขายหมุนไปหมดทุกปี ปีที่แล้วสต๊อก 60-80 ตัน บางปีถึง 100 ตัน ดังนั้น ต้องใช้เงินหมุนเวียนแต่ละปีประมาณ 5 ล้านบาท” คุณณรงค์สิชณ์ กล่าว
แนวโน้มราคาดี
เกษตรกรปลูกเพิ่มแซมผลไม้สร้างรายได้
คุณณรงค์สิชณ์ กล่าวว่า หมากในภาคตะวันออกเป็นพันธุ์พื้นบ้าน ต้นสูง 10-15 เมตร ผลผลิตปริมาณน้อยเพราะส่วนใหญ่ปลูกพืชแซมเป็นผลพลอยได้ น่าส่งเสริมให้เป็นพืชเศรษฐกิจ ตอนนี้เกษตรกรสนใจปลูกเพิ่มขึ้น มีการขายพันธุ์การเก็บลูกจากต้นพันธุ์ดีๆ ขายลูกละ 1.50-2 บาท และเพาะกล้าพันธุ์ชำต้น ต้นละ 10-15 บาท ขายเฉพาะต้นพันธุ์ 5 บาท ตอนนี้ทางเวียดนาม กัมพูชา เริ่มนำไปปลูกกัน และมีพ่อค้าเวียดนามมาซื้อหมากดิบและหมากสุกไปแกะเปลือกขาย
“หมากแห้งขั้นตอนทำจะน้อยกว่าหมากสุกๆ เมื่อนำทำหมากแห้งน้ำหนักจะหายไป 60% หมากแห้งน้ำหนักหายไป 20% ถ้าเป็นหมากรายวันซื้อมาขายไปน้ำหนักจะไม่สูญเสียแต่ต้องคัดเกรดให้ได้คุณภาพมาตรฐาน ไม่มีหมากลาย หมากเสีย ส่วนใหญ่ลูกค้าที่เป็นชาวบ้านมักแกะเปลือกตากแห้งมาเสร็จเพราะใช้เวลาว่างทำอยู่กับบ้านได้ เป็นรายได้ที่ดี เพราะหมากปลูกแล้วไม่ต้องดูแลมาก” คุณณรงค์สิชณ์ กล่าว
ที่มา-technologychaoban