คณะรัฐมนตรี (ครม.)

ด่วน! ครม.ทุ่ม 9.3 พันล้าน ซื้อไฟเซอร์ 20 ล้านโดส ส่งมอบปลายก.ย. เร่งหาอีก 10 ล้านโดส

ด่วน! ครม.ทุ่ม 9.3 พันล้าน ซื้อไฟเซอร์ 20 ล้านโดส เร่งหาอีก 10 ล้านโดส ส่งมอบไตรมาส 4 หรือปลายเดือนก.ย. – ต้นเดือนต.ค.64

เมื่อวันที่ 17 ส.ค.64 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมผ่านระบบ Video Conference ณ ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

โดยที่ประชุมครม.มีมติอนุมัติงบประมาณจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส วงเงิน 9,372 ล้านบาท โดยจะส่งมอบให้ในไตรมาส 4 ปี 64 หรือปลายเดือนก.ย. – ต้นเดือนต.ค.64

นอกจากนี้ ยังเห็นชอบให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติจัดหาวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มเติม 10 ล้านโดส รวมทั้งสิ้นจะส่งมอบทั้งหมด 30 ล้านโดสช่วงไตรมาส 4 ของปี 64

ที่มา-ข่าวสดออนไลน์

ตรวจสอบสิทธิ เงินเยียวยานักเรียน 2พันบาท โรงเรียนรัฐ-เอกชน รีบดูเลย

ตรวจสอบสิทธิ เงินเยียวยานักเรียน 2,000 บาท โรงเรียนรัฐ-เอกชน รีบดูเลย เผย กระทรวงศึกษาธิการ เตรียมโอนเงินช่วยเหลือ 31 ส.ค.นี้

จากกรณี คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของครัวเรือนและประชาชน เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครองและนักเรียนนักศึกษาทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ประจำปีการศึกษา 1/2564 ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการยืนยันตรวจสอบสิทธิการได้รับความช่วยเหลือ โดยเบื้องต้น กระทรวงศึกษาธิการ จะโอนเงินช่วยเหลือให้นักเรียนและผู้ปกครองในอัตรา 2,000 บาทต่อคน ในวันที่ 31 ส.ค.นี้ ทั้งนี้ สำหรับผู้ได้รับเงินเยียวยาในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการมีประมาณ 11 ล้านคน วงเงินรวมประมาณ 21,600 ล้านบาท

ล่าสุดวันที่ 16 ส.ค.2564 เพจเฟซบุ๊ก ไทยคู่ฟ้า เผยแพร่ข้อความระบุว่า “มาแล้ว ช่องทางการตรวจสอบสิทธิ์ตามมาตรการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ปกครอง 2,000 บาท/นักเรียน 1 คน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มจ่ายได้ช่วงสิ้นเดือน ส.ค.-ก.ย. 64

สำหรับนักเรียนในสถานศึกษาสังกัด สพฐ. สามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้ที่เว็บไซต์ https://student.edudev.in.th โดยจะต้องกรอกเลขประจำตัวประชาชน และเลขประจำตัวนักเรียน

ส่วนนักเรียน โรงเรียนเอกชน ตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ https://regis-test.opec.go.th/ หรือแอพพลิเคชัน สช. On mobile โดยนักเรียนไทยให้กรอกเลขประจำตัวประชาชน และนักเรียนต่างชาติหรือนักเรียนที่ไม่มีหลักฐานทางทะเบียน ให้ใช้รหัส G-Code จากโรงเรียนที่ศึกษาอยู่

 

ที่มา-ข่าวสดออนไลน์