บัตรสวัสดิการ

เช็กสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจน ประจำเดือนตุลาคม 2563 มีสิทธิอะไรบ้าง

บัตรคนจน เดือนตุลาคม เพิ่มเงิน 500 บาท

วันที่ 1 ตุลาคม 2563

1.ค่าเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ รายละ 500 บาทต่อเดือน

2.วงเงินช่วยเหลือค่าซื้อสินค้าอุปโภค/บริโภคที่จำเป็น ในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐและร้านค้าอื่นๆที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด ผู้ถือบัตรจะได้รับวงเงินเพื่อซื้อสินค้าเพิ่มอีก 500 บาทต่อคนต่อเดือน จากเดิมได้รายละ 200-300 บาท รวมเป็น ได้เดือนละ 700-800 (ตามเกณฑ์รายได้) เป็นระยะเวลา 3 เดือน

3. วงเงินซื้อก๊าซหุงต้ม 45 บาท โดย 3 เดือน สามารถรูดเพื่อลดราคาค่าก๊าซหุงต้มได้ 1 ครั้งสามารถใช้กับร้านค้าที่ร่วมรายการ

วันที่ 15 ตุลาคม 2563
1. คืนเงินภาษีมูลค่า (VAT) เพิ่ม 5% ผู้ที่เติมเงินเข้าบัตรคนจน และใช้เงินจากบัตรฯ เพื่อรูดซื้อสินค้าผ่านร้านธงฟ้า หรือร้านค้าเอกชนที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รัฐจะคืนเงินภาษี VAT 5% ซึ่งประชาชนสามารถกดออกมาเป็นเงินสดได้ แต่ยอดคืนเงินสูงสุดจะไม่เกิน 500 บาทต่อเดือน เช่น
-จ่ายผ่านบัตรฯ 100 บาท คืน VAT 5% เข้าบัตรฯ 5 บาท
-จ่ายผ่านบัตรฯ 500 บาท คืน VAT 5% เข้าบัตรฯ 25 บาท
-จ่ายผ่านบัตรฯ 1,000 บาท คืน VAT 5% เข้าบัตรฯ 50 บาท

  1. ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะได้รับเงิน 50-100 บาทตามเกณฑ์รายได้
    -รายได้ 0-30,000 บาทต่อปี ได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 100 บาท
    -รายได้ 30,001-100,000 บาท ได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 50 บาท

วันที่ 18 ตุลาคม 2563

1.ส่วนลดค่าน้ำปะปา ใช้น้ำปะปาไม่เกินเกณฑ์เดือนละ 100 บาท/ครัวเรือน และลงทะเบียนใช้สิทธิเรียบร้อยแล้ว ลงทะเบียน
2.ส่วนลดค่าไฟฟ้าประจำเดือน ผู้ที่ได้รับสิทธิคือผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 230 บาท

https://www.facebook.com/anuwatf.ch7/posts/4092284900800276

ข้อมูลจาก อนุวัต จัดให้

สรุป หลายๆประเด็นให้เห็นภาพง่ายๆ เกี่ยวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ วันลงทะเบียนใหม่

สรุปให้เห็นภาพง่ายๆ ดังต่อไปนี้

– ใช้จ่ายผ่านบัตรคนจน 100 บาท ได้คืน VAT 5% เงินจะเข้าบัตรคนจนเดือนถัดไป 5 บาท
– ใช้จ่ายผ่านบัตรคนจน 500 บาท ได้คืน VAT 5% เข้าบัตรคนจนเดือนถัดไป 25 บาท
– ใช้จ่ายผ่านบัตรคนจน 1,000 บาท ได้คืน VAT 5% เข้าบัตรคนจนเดือนถัดไป 50 บาท
– ใช้จ่ายผ่านบัตรคนจน 10,000 บาท ได้คืน VAT 5% เข้าบัตรคนจนเดือนถัดไป 500 บาท
หมายเหตุ : หากคุณซื้อสินค้าที่ไม่ได้เสีย VAT เช่น ผักสด, เนื้อสด, กับข้าว และอื่นๆ คุณจะไม่ได้รับ เ งิ น คื นจากนโยบายนี้

จนไม่จริง เตรียมโดนคัดออก
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐดำเนินมาตั้งแต่ปี 2560 วัน นี้ มี ผู้ ถือบัตรกว่า 14 ล้านคน จึงเชื่อว่าผู้ได้รับบัตรสวัสดิการส่วนหนึ่งน่าจะมีศักยภาพใน ก า ร ดำ ร ง ชีวิตสูงขึ้น (พ้นจากเส้นความยากจน) จึงจำเป็นต้องมีการปรับข้อมูล ปรับปรุงรายชื่อผู้ได้รับสิทธิเสียใหม่ ขณะเดียวกันจะต้องพิจารณาเป็นรายครัวเรือน เพราะบางคนที่ได้รับสิทธิอาจมีรายได้ไม่มาก แต่อาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีรายได้ดี ก็ไม่ควรได้รับสิทธิ และรัฐบาลกำลังจะเปิดให้มีการลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกครั้งในต้นปีหน้า

เตรียมเปิดลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่
นายอุตตม สาวนายน รั ฐ ม น ต รีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ในเดือน ม.ค.2563 กระทรวงการคลัง จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบใหม่ ซึ่งข้อเสนอเบื้องต้นจะนำรายได้ครอบครัวมาใช้เป็นเกณฑ์ประเมินร่วมกับรายได้ส่วนบุคคลที่กำหนดไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ส่วนข้อมูลบัตรเครดิตและรถยนต์ ยังไม่นำมาพิจารณา อย่างไรก็ตาม หากนำรายได้ครอบครัวมาประเมิน ทำให้ผู้ได้รับบัตรสวัสดิการหายไปส่วนหนึ่ง ขณะเดียวกันพร้อมเปิดให้คนใหม่เข้ามาลงทะเบียนเพิ่มเติมด้วย

“เดิมการลงทะ เ บี ย น บัตรคนจนเข้าสู่ที่ประชุม ครม. วันที่ 24 ธ.ค.62 แต่ไม่ทัน เพราะต้องปรับแก้ในบางประเด็น เช่น เรื่องการคิดรายได้ครัวเรือนยังไม่ตรงกัน ผมไม่อยากให้เกณฑ์ดังกล่าวไปดึงคนให้เข้ามารับบัตรมากขึ้น เพราะจุดประสงค์คือ คนที่ได้บัตรต้องจนจริงๆ และอยู่ในครอบครัวไม่มีฐานะร่ำรวย หากมีรายได้ ของครอบครัวปีละ 1 ล้านบาท ก็ไม่ควรได้รับบัตรทั้งครอบครัว” นายอุตตม กล่าว

แถมยังลุ้น! ครม.เพิ่ม “เบี้ยคนพิการ” เป็น 1 พันบาท
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการ ป ร ะ ชุ ม คณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ (กพช.) เพื่อกำหนดเพิ่มอัตราเบี้ยความพิการ จาก 800 บาทเป็น 1,000 บาทต่อเดือนต่อคน และนายจุรินทร์ จะได้นำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเร็วที่สุด ซึ่งกรณีนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้พิการกว่า 2,000,000 คนทั่วประเทศ คาดว่าจะใช้งบประมาณ เพิ่มขึ้นปีละ 4,800 ล้านบาท

กรมบัญชีกลางโอนตรง เบี้ยผู้ สู ง อ า ยุ เบี้ยคนพิการ ครบทุกจังหวัดต้นปี 63 กรมบัญชีกลางขยายการโอนเงินจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการ เข้าบัญชีเงินฝากของผู้มีสิทธิโดยตรง จากเดิมจะโอนให้กับผู้มีสิทธิในเขตกรุงเทพฯ เมืองพัทยา และ จังหวัดสิงห์บุรี

ซึ่งล่าสุดวันที่ 7 มกราคม 2562 ได้มีประกาศออกมาว่า “กรมบัญชีกลางเตรียมจ่ายตรงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการเข้าบัญชีของผู้มีสิทธิโดยตรง โดยจะสามารถจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิของ อปท. ทั่วประเทศ จำนวน 7,774 แห่ง ได้พร้อมกันทั่วประเทศ 10 มกราคม 2563” 

นางสาววิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้ดำเนินโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม ตามโครงการ e-Payment ภาครัฐ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ฯ National e-Payment Master Plan โดยทำหน้าที่จ่ายเงินตรงเข้าบัญชีผู้มีสิทธิรับเงินสวัสดิการสังคมและเงินอื่นแทนส่วนราชการหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลสวัสดิการสังคมแต่ละประเภท ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางได้ออกหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการ ตามโครงการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม (e-Social Welfare) เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายเงินอุดหนุนแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ซึ่งกรมบัญชีกลางได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) จัดทำฐานข้อมูล และได้รับการสนับสนุนการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลบุคคลจากกรมการปกครอง โดยปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 กรมบัญชีกลางได้จัดทำปฏิทินการทำงานสำหรับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการ เพื่อให้ผู้มีสิทธิได้ตรวจสอบ ดังนี้
➡️ ม.ค. 2563 จ่าย > ศุกร์ที่ 10 ม.ค.63
➡️ ก.พ. 2563 จ่าย > ศุกร์ที่ 7 ก.พ.63
➡️ มี.ค. 2563 จ่าย > อังคารที่ 10 มี.ค.63
➡️ เม.ย. 2563 จ่าย > ศุกร์ที่ 10 เม.ย.63
➡️ พ.ค. 2563 จ่าย > ศุกร์ที่ 8 พ.ค.63
➡️ มิ.ย. 2563 จ่าย > พุธที่ 10 มิ.ย.63
➡️ ก.ค. 2563 จ่าย > ศุกร์ที่ 10 ก.ค.63
➡️ ส.ค. 2563 จ่าย > จันทร์ที่ 10 ส.ค.63
➡️ ก.ย. 2563 จ่าย > พฤหัสบดีที่ 10 ก.ย.63

หมายเหตุ : กรณีมีการเปลี่ยนแปลงการโอนเงินตามปฏิทินการทำงานฯ กรมบัญชีกลางจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2562 เป็นต้นไป จะขยายสิทธิการโอนเงินไปยังผู้มีสิทธิใน จ.สมุทรสงคราม และ จ.อุทัยธานี จากนั้นจะเริ่มทยอยจ่ายต่อไปจนครบ 76 จังหวัด ภายในเดือน ม.ค. 63.

ข้อมูลจาก คม ชัด ลึก

เช็กวันเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนมกราคม 2563

เฟซบุ๊กบัตรประชารัฐและเงินอุดหนุนบุตร ได้ออกมาโพสต์ข้อความว่า 

เริ่มแจกวันที่ 1 มกราคม 2563 ได้เท่าไร : วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้า เ พื่ อ การศึกษา จากร้านธงฟ้าประชารัฐ 200-300 บาทต่อเดือน (เดือนนี้ยังได้อยู่ และไม่สามารถ ก ด เป็นเงินสดได้)

ใครได้ : ผู้ถือ บั ต ร ส วั ส ดิ ก า ร แ ห่ ง รั ฐ ทุกคน หมายเหตุ : ผู้มีรายได้ไม่ถึง 30,000 บาทต่อปี ได้ 300 บาท, ผู้มีรายได้เกิน 30,000 บาทต่อปีขึ้นไป ได้ 200 บาท

เริ่มแจกวันที่ 1 มกราคม 2563 ได้เท่าไร : ค่าเดินทาง โดยรถโดยสารสาธารณะ แบ่งเป็น รถเมล์ รถไฟฟ้า (รฟม.และ BTS) 500 บาท, รถ บขส. 500 บาท และรถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน

ใครได้ : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคน หมายเหตุ : ถ้าเกิน 500 บาท ต้องออกเงินเพิ่มเติมเอง

เริ่มแจก : วันที่ 15 มกราคม 2563  เงินคืนภาษี VAT 5% สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เติมเงินเข้าบัตร แล้วใช้เงินจากบัตรรูดซื้อสินค้าและบริการผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าเอกชนอื่น ๆ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านเครื่อง EDC ที่มีการเชื่อมต่อระบบ POS ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 – 30 กันยายน 2563 รัฐจะคืนภาษี VAT 5% ให้ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเงินส่วนนี้สามารถนำบัตรคนจนไปกดเป็นเงินสดออกมาใช้ หรือรูดซื้อของตามร้านธงฟ้าฯ และร้านค้าอื่น ๆ ที่ร่วมโครงการได้ 

ใครได้ : เป็นผู้ที่เ ติ ม เ งิ น เข้าบัตรคนจน แล้วใช้บัตรจ่ายเงินซื้อของในเดือนธันวาคม 2562 จึงจะได้รับเงินภาษี VAT 5% คืนเข้าบัตร ตามยอดใช้จ่าย

เริ่มแจกวันที่ 18 มกราคม 2563 ได้เท่าไร : ค่าน้ำ 100 บาท ต่ อ ครัวเรือนต่อเดือน 
ใครได้ : ครัวเรือนที่ใช้น้ำ ป ร ะ ป า ไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อย (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562-กันยายน 2563 ระยะเวลา 11 เดือน)

เริ่มแจกวันที่ 18 มกราคม 2563 ได้เท่าไร : ค่าไฟ 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน

ใครได้ : ครัวเรือนที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด และได้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์เรียบร้อย (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562-กันยายน 2563 ระยะเวลา 11 เดือน)
หมายเหตุ

(1.) สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิ์ ยังสามารถลงทะเบียนใช้สิทธิ์เพิ่มเติมได้แล้ว ผ่านช่องทางเว็บไซต์ MEA http://meagate1.mea.or.th/welfareregis และ MEA Smart Life Application
(2.) ต้องชำระยอดค่าไฟฟ้ากับการไฟฟ้านครหลวงก่อน จากนั้นกรมบัญชีกลางจึงจะโอนเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐคืนในภายหลังตามจำนวนยอดชำระจริง

ได้ 2 เบิ้ล! เงินคืนสูงสุด 500 บาท + ใจดีออมเงินให้
ได้เท่าไร : ได้เงินคืนสูงสุด 500 บาท

ใครได้ : ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐทุกคนที่ใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 – 30 กันยายน 2563) โดยการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% เข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้

(1.) จำนวน 5% คืนเงินให้ผู้ถือบัตร ด้วยการโอนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Money) เงินส่วนนี้สามารถนำบัตรคนจนไปกดเป็นเงินสดออกมาใช้ หรือรูดซื้อของตามร้านธงฟ้าฯ และร้านค้าอื่นๆ ที่ร่วมโครงการได้

(2.) จำนวน 2% จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก 1% เป็นภาษีมูลค่าเพิ่ม อีกส่วนคือ 1% เก็บเข้าบัญชีกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ของผู้ถือบัตร หรือหากไม่มีบัญชีกับ กอช. อาจจะเปิดบัญชีเพื่อสะสมไว้ให้

หมายเหตุ : เมื่อรวมกันทั้งสองส่วนแล้วต้องไม่เกิน 500 บาทต่อคนต่อเดือน และจะโอนให้ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป

ข้อมูลจาก คม ชัด ลึก , อีจัน

เงินพิเศษ สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะได้รับ เดือน ส.ค.-ก.ย

สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้เฮแล้วเหตุอีก เมื่อครม. ไฟเขียวมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจ ก็คือการช่วยเหลือค่าครองชีพ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นเวลา 2 เดือนเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน พ. ศ. 2562 โดยได้เพิ่ม วงเงินให้กับผู้ถือบัตรเนี่ย 3 กลุ่ม ตั้งแต่ 500 จนถึง 2,600 บาทเลยทีเดียว 1 เงินโบนัสพิเศษเดือนละ 500 ให้จำนวน 2 เดือน รวมเป็น 1,000 บาท

เพื่อไว้ใช้ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 2 เงินช่วยเหลือผู้สูงอายุเดือนละ 500 ช่วยเหลือจำนวน 2 เดือนรวมเป็น 1,000 บาท 3 เงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดเดือนละ 300 กลุ่มผู้มีสิทธิ์นี้ ก็คือผู้ที่มีบุตรตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ขวบและลงทะเบียนโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด จำนวนเงิน 300 บาท 2 เดือนรวมเป็น 600 บาท

เราจะไปกดเงินวันไหน ก็ดูจากเลข บัตรประชาชน ขึ้นต้นเลขอะไร ก็มาเทียม ตารางข้างบน ก็ให้ไปกดเงินวันนั้น สำหรับผู้ถือบัตร อะไรที่กดเป็นเงินสดได้ หรือกดไม่ได้ ดูที่รูปข้างล่าง เงินที่กดไม่ได้ก็มี เงินซื้อสินค้า อุปโภค-บริโภค, ค่าก๊าซหุงต้ม,ค่าโดยสารรถสาธารณะ ส่วนเงินที่กดเป็นเงินสดได้ ก็จะมี ค่าประปา ค่าไฟฟ้า ค่าเดินทางไปโรงพยาบาล ค่าเช่าบ้านผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการ เงินพิเศษ เงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ และเงินอุดหนุดเด็กแรกเกิด

มีข้อสงสัยโทร 021092345 ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 ในวันเวลาราชการ

ข้อมูลจาก 2benews.com