หมู่บ้านต้นแบบ

แบบบ้านชั้นเดียวหลังนี้เป็นผลงานของ คุณเดชา คำอ่อน เห็นว่าลูกสาวท้งสองเริ่มโตขึ้นเรื่อยๆ เลยวางแผนจะสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับลูกๆ โดยเริ่มต้นด้วยการสร้างบ้านแบบประหยัด ณ บ้านนาขนัน จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้ครอบครัวของเขาได้อยู่ร่วกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา อย่างมีความสุข

โดยบ้านหลังนี้เป็นบ้านสไตส์โมเดิร์น มีเนื้อที่ประมาณ 85 ตารางเมตร ประกอบไปด้วย 2ห้องนอน 1ห้องน้ำ และ 1 ห้องรับแขก ภายนอกมีสีเทาเข้มสลับสีเทาอ่อน ตัดขอบด้วยสีขาวเล็กน้อย ส่วนฝ้าเป็นสีขาวควันบุหรี่ ตัวบ้านยกพื้นสูงพร้อมทำระเบียงนั่งเล่นและตูเก็บรองเท้าแบบบิวต์อินหน้าบ้าน ส่วนหลังคาเป็นทรงเพิงหมาแหงน

สำหรับขั้นตอนในการสร้างจะเน้นเลือกซื้อวัสดุเองและจ้างช่างเป็นงานๆ ไป ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ ดังนี้

– งานโครงหลังคาประมาณ 90,000 บาท

– งานปูนประมาณ 123,000 บาท

– งานห้องครัว+ห้องน้ำประมาณ 35,000 บาท

– งานฝ้าเหมารวมประมาณ 33,000 บาท

– งานคิ้ว งานบัวประมาณ 17,000 บาท

– งานระบบไฟประมาณ 32,000 บาท

– งานอะลูมิเนียมประมาณ 47,000 บาท

– งานผ้าม่านประมาณ 16,000 บาท

– งานสีประมาณ 19,000 บาท

– งานกระเบื้องพื้นประมาณ 38,000 บาท

รวมทั้งหมด 450,000 บาท

เรียกได้ว่าถึงแม้งบประมาณจะไม่มาก แต่ก็สามารถสร้างบ้านสวยแถมคุ้มค่าได้ไม่ยาก รับประกันเลยว่าลูก ๆ ต้องชอบใจแน่นอน ว่าแต่เรื่องราวการสร้างบ้านหลังนี้เป็นอย่างไร สวยงามแค่ไหน อย่ามัวรอช้า ตามไปชมกันเลยดีกว่าค่ะ

บ้านในฝันเขียนลงกระดาษ

ตัดแต่งเป็นรูปร่าง

ต่อเติมตามฝันจนใกล้จะถึงฝั่ง ตอนนี้บ้านหลังเล็กของ “พี่ไอด้า” กับ “น้องอันดา” 60% แล้วนะครับ

บ้านหลังเล็กของ “พี่ไอด้า” กับ “น้องอันดา” 80% แล้วครับ #บ้านในฝันจะเป็นจริงแล้วครับ

อัปเดตบ้านโมเดิร์นหลังเล็ก ๆ ของพี่ไอด้า น้องอันดาครับ ^_^ บ้านสร้างเสร็จได้สักพักแล้วครับ พื้นที่ประมาณ 85 ตารางเมตร 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขกครับ #ขอบคุณตัวเอง #ขอบคุณครอบครัว #ฝันเป็นจริงแล้วคร๊าบบบ คราวนี้มาดูแบบละเอียด ๆ กัน

ภายนอก

ภายใน

แบบบ้านโมเดิร์นอื่นๆ

ข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ เดชา คำอ่อน และ คุณ วัชราภรณ์ แพงจักร

เราคงเคยได้ยินอยู่บ่อย ๆ นะครับ
เสียงเชียร์ที่บอกกับชาวบ้านว่า “เลิกปลูกข้าวโพดเถอะ!”
แต่ในความจริง คือ แม้อยากจะเลิก ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะในพื้นที่ไร่ข้าวโพด ไม่มีแหล่งน้ำ

บ้านแม่วาก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
เป็นชุมชนที่มุ่งมั่น ไม่ยอมจำนน
#เมื่อไม่มีน้ำ ก็ต้องหาน้ำ
#เมื่อใช้งบพัฒนาของรัฐไม่ได้ เพราะพื้นที่อยู่ในเขตป่า ก็ไม่ยอมแพ้
#เมื่อรัฐไม่มีให้ ก็ทำโครงการขอรับความช่วยเหลือจากภาคเอกชน/องค์กรต่าง ๆ
#เมื่อไม่มีค่าแรง ก็พร้อมลงแรงเอง 100%

คนแม่วาก ใช้เวลา 3 ปี รวมงบสนับสนุนประมาณ 2 ล้านบาท
ทำ ๆ หยุด ๆ เพราะงบซื้อวัสดุอุปกรณ์ไม่ต่อเนื่อง แต่ไม่ถอดใจ เพราะตั้งใจเปลี่ยนชีวิตจริง ๆ
#เสียงน้ำที่ไหลลงบ่อในวันแรก สร้างรอยยิ้มและความหวังครั้งใหม่

ชมวีดีโอ ด้านล่าง (วีดีโอไม่เล่น กดตรงนี้)

https://www.facebook.com/join.forestbook/videos/2316370715270357/

ระบบชลประทานชุมชนของบ้านแม่วาก
มีบ่อใหญ่(บ่อแม่) 1 บ่อ ความจุ 1,200 ลบ.ม. และบ่อเล็กซึ่งกระจายตัวอยู่ตามสันดอยต่าง ๆ อีก 6 บ่อ ความจุบ่อละ 200 ลบ.ม.

ถือเป็นระบบน้ำขนาดกะทัดรัด เหมาะกับสภาพพื้นที่
ซึ่งชาวบ้านรู้ดีว่า ต้องใช้น้ำอย่างระมัดระวัง ไม่ปลูกพืชที่ใช้น้ำเยอะเกินไป
จัดสรรน้ำอย่างยุติธรรม และบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ในอนาคต เมื่อต้นไม้โต และระบบวนเกษตรเข้าที่เข้าทาง
ความชุ่มชื้นในดินและการเก็บกักน้ำฝนตามธรรมชาติจะฟื้นคืนมา

#แรงขับของคนที่อยากพลิกชีวิต มีพลังจริง ๆ นะครับ
คนแม่วาก พิสูจน์ให้เห็นว่าแล้วว่าพวกเขาเอาจริง
แล้วรัฐ สังคม และองค์กรต่าง ๆ ซึ่งล้วนต้องการพื้นที่สีเขียวเช่นกัน จะใช้โอกาสนี้เข้ามาร่วมบูรณาการกันอย่างไรดี
จะส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกอะไร ตลาดต้องการแบบไหน มีงบประมาณ มีองค์ความรู้ มีนวัตกรรมต่าง ๆ ที่จะหนุนช่วยอย่างไรได้บ้าง

ที่ผ่านมา
อ.แม่แจ่ม มีหน่วยงาน องค์กร และคนภายนอกเข้ามาร่วมแก้ปัญหามากมาย แต่ส่วนใหญ่ เป็นลักษณะต่างคนต่างทำ

ถึงเวลาต้องเปลี่ยนยุทธศาสตร์
ใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง(Area-based)
ใช้ความต้องการและการมีส่วนร่วมของชาวบ้านเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน
ถ้าทุกฝ่ายยังผ่านด่านนี้ไปไม่ได้ ความหวังที่เราจะได้เห็นพื้นที่สีเขียวเต็มพื้นที่ ก็ยังต้องลุ้นกันเหนื่อยครับ

ที่มา forestbook