แก้คอมช้า

5 วิธีง่ายๆ แก้คอมช้า ด้วยตัวเอง คอมฯ ช้าเองแบบที่เราไม่รู้สาเหตุ

เชื่อว่าหลายๆคนที่ทำงานด้วยคอมพิวเตอร์ (Windows) อาจจะเคยพบปัญหา คอมฯ ช้าเองแบบที่เราไม่รู้สาเหตุ แล้วต้องมานั่งทุกข์ทรมาน เพราะทำอะไรไม่ได้ ปิดเครื่องก็แล้ว รีสตาร์ทก็แล้ว ถ้าเอาไปล้างน้ำได้คงทำไปแล้ว (ไม่แนะนำนะครับ) แล้วยิ่งสถานการณ์ Work Form Home แบบนี้ จะไปให้แผนกไอทีทำให้ก็ไม่ได้อี๊กกกก

วันนี้ ลองเอาวิธี 5 แก้ไขคอมพิวเตอร์ช้าเอง เบื้องต้น มาแนะนำครับ เป็นการเช็คและแก้ไขเบื้องต้น ไม่ยากเกินไปแน่นอน

1. เช็คการอัพเดต Windows ของเราบ้าง

เชื่อว่าหลายๆคนเคยเจอเหตุการณ์เปิดเครื่องมาแล้วช้าเฉยเลย ทั้งๆที่ก่อนหน้ายังดีๆอยู่ อย่าเพิ่งตกใจครับ ลองตรวจสอบการอัพเดตซอร์ฟแวร์ Windows ดูก่อนครับ

เข้าไปที่ Settings > Update & Security > Windows Update ถ้าขึ้นหน้าจอให้อัพเดต ตามรูปนี้ ให้ลองกดอัพเดตเลยครับ แล้วหลังจากนั้น ปล่อยเครื่องทิ้งไว้จนกว่าจะอัพเดตเสร็จ ระหว่างนี้ไม่แนะนำให้ทำงานหรือเข้าโปรแกรมต่างๆนะครับ อย่าลืมถ้าใช้ Notebook แนะนำให้ชาร์จแบตด้วยนะครับ

นอกจากการอัพเดต Windows แล้ว โปรแกรมอื่นๆเช่น การ์ดจอ ก็สำคัญ แนะนำให้อัพเดตบ่อยๆครับ

2. อะไรไม่จำเป็นก็ลบทิ้งไปซะ!
ลองลบโปรแกรมเหล่านั้นไปซะ โดย แนะนำให้ใช้โปรแกรมอย่าง CCleaner ครับ โหลดมาเล้ย พร้อมกับเปิดโปรแกรม แล้วไปที่ Tools จากนั้นดูซิว่ามีโปรแกรมไหนบ้างที่เราไม่เคยเปิด ใช้งานเลยบ้าง จากนั้นกด Uninstall เลยครับ ปล. แนะนำว่าอย่าไปยุ่งกับโปรแกรมจำเป็นของเครื่องอย่าง Microsoft ต่างๆครับ

3. ปิดโปรแกรมที่เปิดอัตโนมัติ เมื่อเริ่มเปิดเครื่อง ในขณะที่เราเปิดเครื่อง เพื่อนๆ คงเคยเจอกับบรรดาโปรแกรมต่างๆ ที่ดาหน้าออกมาต้อนเรารับ จนทำให้บางครั้ง เครื่องก็ไม่พร้อมใช้งานทันทีที่เปิด ต้องรอให้โปรแกรมเจ้ากรรมเหล่านั้นรันไม่เสร็จก่อน บ้างก็เป็นโปรแกรมที่เราใช้อันนี้ปล่อยไป

แต่บางโปรแกรม เราไม่ได้ใช้งานขณะนั้น หรือไม่ได้ใช้งานตลอด แต่ยังจำเป็นต้องมีติดเครื่องไว้ กรณีนี้ แนะนำให้ไปปิดการเปิดโปรแกรม ที่หน้า Starup ครับ โดยเปิด Task Manager แล้วไปที่หน้าต่าง Starup แล้วดูว่าโปรแกรมไหนยังไม่จำเป็น ก็ไปที่ช่อง Status แล้วเปลี่ยนจาก Enable เป็น Disabled

4. ปิด Disk Defragmenter
Disk Defragmenter เป็นชื่อที่หลายๆคนอาจจะไม่คุ้ม เอาสั้นๆ “มันคือระบบจัดการไฟล์ต่างๆเบื้องหลัง” โดยไม่ได้บอกเรา ก็ดีนะคอยดูแลเราแบบเราไม่ได้ร้องขอ เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อนเลย ไอ้ขั้นตอนนี้แหละครับ ทำให้เครื่องเราช้า เพราะขณะทำการจัดเรียงไฟล์ ก็ต้องใช้ทรัพยากรเครื่อง แล้วถ้าดันมาเกิดตอนเราทำงานละ ก็โป๊ะเช๊ะ ช้าเป็นเต่าคลาน ดังนั้น เราควรปิดฟังก์ชั่นนี้ไปก่อน แล้วค่อยไปจัดการไฟล์ตอนที่เราไม่ได้ใช้เครื่อง ด้วยตัวเองจะดีกว่า

ขั้นตอนดังนี้

This PC > เลือกไดร์ฟที่ต้องการ คลิ๊กขวา > Properties > Tools > Optimize and defragment drive
> Optimize > Change settings > ติ๊ก Run on a schedule ออก > OK

จากนั้น เครื่องเราจะไม่ทำการจัดการไฟล์ให้เราแบบอัตโนมัติแล้วครับ

5. เคลียร์ไฟล์ขยะ และ จัดการไฟล์ ให้เป็นระบบ
หัวข้อนี้ ถ้าทำทุกข้อมาถึงนี่แล้ว เรียกได้ว่าง่ายเหมือนธานอสดีดนิ้วแล้วแหละครับ โดยเราจะทำด้วยกัน 2 วิธีคือ เคลียร์ไฟล์ขยะ และ ทำการจัดเรียงไฟล์ให้เป็นระเบียบ เวลาระบบรันจะได้มีความรวดเร็ว

1. เคลียร์ไฟล์ขยะ เราจะให้โปรแกรม CCleaner เจ้าเก่าที่ใช้ลบโปรแกรมนั่นเอง ทำได้ง่ายๆดังนี้
เปิดโปรแกรม >> Custom Clean >> Analyze >> รอสักครู่ >>Run Cleaner
สักเกตุดีๆ จะเห็นจำนวนไฟล์ขยะที่โปรแกรมทำการลบไป ถ้าใครไม่เคยเคลียร์ขยะเลย เผลอเป็น 10GB เลยครับ
อ้อ แล้วก็แนะนำให้ให้ปิดโปรแกรมอื่นๆ ขณะทำการลบขยะด้วยครับ

2. Disk Defragmenter ***ใช้ SSD ไม่แนะนำทำขั้นตอนนี้
จากข้อ 4 Disk Defragmenter ที่บอกไปแล้วจะช่วยจัดการไฟล์ ดังนั้น เราก็ควรจัดระเบียบไฟล์ในเครื่องบ้าง ทำง่ายๆดังนี้ครับ This PC > เลือกไดร์ฟที่ต้องการ คลิ๊กขวา >> Properties >> Tools >> Optimize and defragment drive >> Optimize >> Optimize จากนั้น ก็รอให้เสร็จ และเช่นเคยไม่แนะนำให้ใช้งานคอมพิวเตอร์เช่นเดิมครับ

นี่แหละครับ คือ 5 วิธี เบื้องต้นง่ายๆ ในการทำให้คอมพิวเตอร์ของเรา กลับมาเร็วเหมือนเดิม (ย้ำว่าเร็วเหมือนเดิมนะครับ ไม่ใช้เร็วกว่าเดิม)

 

ที่มา-BaNANA

5 วิธีง่ายๆ แก้คอมช้า ด้วยตัวเอง คอมฯ ช้าเองแบบที่เราไม่รู้สาเหตุ Read More »

5 วิธี แก้คอมช้า Windows 10 เพิ่มความเร็ว จัดการปัญหาเครื่องหน่วง

ใครที่ใช้งาน Windows 10 ไปนานสักระยะแล้วเกิดอาการคอมช้า เครื่องหน่วง โดยเฉพาะกับคนที่ใช้คอมพิวเตอร์รุ่นเก่าที่ได้อัพเกรดมาใช้งาน Windows 10 ก็มักจะเกิดอาการเช่นนี้ และวันนี้ จะนำวิธีดี ๆ ในการแก้ปัญหาคอมช้า เพิ่มความเร็วให้กับคอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน Windows 10 ทั้งทำได้ฟรี จะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย

จัดการคอมช้า: ปิดค่าความโปร่งใสของ Menu

สำหรับความโปร่งใสของ Menu นั้น ใน Windows 10 นั้นจะมีลูกเล่นที่จะทำให้หน้าตาของเมนูดูสวยงามและน่าใช้งาน โดยเมื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ ในแถบของเมนูจะมีความโปร่งใสขึ้น ดูกลืนไปกับพื้นหลัง แต่การเปิดใช้งานความโปร่งแสงนี้ก็ทำให้มีการใช้งานทรัพยากรเบื้องหลังของระบบอยู่เช่นกัน ซึ่งในคอมพิวเตอร์ที่มีกราฟฟิกต่ำ หรือทรัพยากรเครื่องที่จำกัดก็อาจจะส่งผลให้ระบบทำงานหนักขึ้น และทำให้คอมช้าลงได้เช่นกัน

วิธีปิดค่าความโปร่งแสงของ Menu สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

เริ่มต้นให้ไปที่ Settings >> เลือก Personalization

จากนั้นไปที่ Colors >> กดปิด Transparency Effect

เพียงเท่านี้ก็ปิดความโปร่งใสของ Menu เรียบร้อยแล้ว ช่วงให้คอมทำงานหนักน้อยลง ไวและลื่นขึ้น

ปิด Animations จัดการปัญหาเครื่องหน่วง

Windows 10 ในปัจจุบันนั้นจะมีการเพิ่มลูกเล่นด้านกราฟฟิกขึ้นมาเพื่อให้ Windows 10 นั้นดูทันสมัยและน่าใช้มากยิ่งขึ้น แต่กระนั้นในคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า ๆ หรือ Notebook สำหรับการใช้ทำงานเป็นหลักนั้นก็อาจจะมีการประมวลผลด้านกราฟฟิกที่ต่ำ ก็จะทำให้ Windows ของเราดูหน่วง เพราะส่วนหนึ่งใช้ไปกับการประมวลด้านกราฟฟิกของตัว Windows เองการปิด Animations (Animations จะส่งผลเกี่ยวกับการเปิด-ปิดหน้าต่างโปรแกรมต่าง ๆ ขึ้นมา หรือเวลาขยาย-ลดหน้าต่างลงไปไว้ที่ Taskbar โดยฟีเจอร์นี้จะทำให้การกระทำเหล่านี้ใน Windows มีความนุ่มนวล ดูสบายตามากขึ้น แต่ก็กินทรัพยากรของเครื่องเช่นกัน) ที่จะทำให้ Notebook หรือคอมพิวเตอร์ของเราเร็วและลื่นขึ้น

เข้าไปที่ Windows Settings >> เลือก Ease of Access

เลื่อนลงมาที่ส่วนของ Simplify and Personalize Windows >> กดปิด Show Animations in Windows

เพียงเท่านี้ก็ปิดฟีเจอร์ Animations ใน Windows 10 ได้เรียบร้อยแล้ว ทีนี้การเรียกโปรแกรมขึ้นมาก็จะไม่มีเอฟเฟ็กที่ที่จะมากินทรัพยากรในเครื่องเราแล้ว ทำให้การเปิด-ปิด, ย่อ-ขยาย โปรแกรมทำได้รวดเร็วขึ้น ส่งผลให้ Windows ของเราทำงานได้เร็วและลื่นขึ้นนั่นเอง

การปิด Special Effects

นอกจากความโปร่งใสของเมนูแล้ว Windows 10 ยังมีเอฟเฟคและลูกเล่นอื่น ๆ ที่เข้ามาทำให้ตัววินโดวส์นั้นน่าใช้งานอีกเพียบ โดย Effects เหล่านี้จะทำให้การเปิด-ปิด, ย่อ-ขยาย หน้าต่างของโปรแกรมต่าง ๆ ทำได้สมูทและลื่นไหลมากขึ้น แต่กระนั้นการเปิดเอฟเฟคเหล่านี้ก็กินทรัพยากรของเครื่องอยู่เช่นกัน

สำหรับวิธีการปิด Special Effects ใน Windows 10 ทำได้ดังนี้

คลิกขวาที่ This PC >> เลือก Properties >> จากนั้นเลือก Advanced System Settings หรือจะพิมพ์ข้อความ ‘Advanced System Settings’ ในช่อง Search ของ Windows ก็ได้เช่นกัน

จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง System Properties ขึ้นมา >> เลือก Advanced ที่แถบเมนู >> จากนั้นดูในช่อง Performance >> เลือก Settings

ในหน้า Performance Options >> คลิก Visual Effect >> จากนั้นดูในช่อง Effects ต่าง ๆ ให้เราเอาเครื่องหมายถูกออกจาก Effects ต่าง ๆ (หรือะเลือกปิดเฉพาะบางเอฟเฟคก็ได้ตามต้องการ)

เพียงเท่านี้เราก็จะปิด Special Effects ช่วยให้ระบบไม่ต้องคอยใช้ทรัพยากรไปกับเอฟเฟคต่าง ๆ ที่เพียงทำให้ดูสวยงามสบายตาและดูสมูทเท่านั้น ซึ่งการปิดเอฟเฟคก็อาจจะทำให้การเปิด-ปิดโปรแกรม, ย่อ-ขยายหน้าต่างโปรแกรมดูแข็งกระด้างขึ้น ไม่สมูทเหมือนเก่า แต่นั่นก็ช่วยลดการใช้ทรัพยากรเครื่องไปได้เช่นกันและไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของ Windows 10 ด้วย

ปิดการทำงานของโปรแกรมที่เปิดอัตโนมัติ

เวลาที่เราเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นมานั้น เมื่อเข้าสู่หน้า Windows โดยปกติมักจะมีโปรแกรมทำงานเองโดยอัตโนมัติซึ่งก็ทำให้ระบบเริ่มทำงานและใช้ทรัพยากรไปตั้งแต่เริ่มทำงาน ส่งผลให้คอมช้า อืดและหน่วงได้ โดยเฉพาะในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีแรมต่ำ ดังนั้นการปิดโปรแกรมที่ทำงานอัติโนมัติเวลาที่เปิดคอมพิวเตอร์จึงเป็นอีกทีวิธีที่จะช่วยให้คอมพิวเตอร์ของเราทำงานได้เร็วขึ้น ไม่เสียทรัพยากรไปกับโปรแกรมเปิดอัติโนมัติที่เราอาจไม่ได้ใช้งาน

สำหรับวิธีการปิดการทำงานของโปรแกรมที่เปิดอัตโนมัติมีดังนี้

ไปที่ Task Manager ด้วยการกด Ctrl + Alt + Del หรือ พิมพ์ Task Manager ลงในช่อง Search ของ Windows

เมื่อปรากฏหน้าต่าง Task Manager >> เลือก Startup >> จากนั้นให้ คลิกขวาที่โปรแกรมที่ไม่ต้องการให้ทำงานอัตโนมัติ >> เลือก Disable

ลบ Bloatware ที่มากับ Windows

สำหรับวิธีนี้นั้นจะเป็นการลบโปรแกรมที่ติดมากับ Windows 10 เช่น เกมจาก Microsoft Store หรือแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ซึ่งหลายครั้งเราก็ไม่ได้ใช้งานพวกโปรแกรมหรือแอพฯ ที่ติดมากับ Windows แต่อย่างใด แถมยังสิ้นเปลืองพื้นที่ในคอมพิวเตอร์ของเราด้วย การลบโปรแกรมจำพวก Bloatware นี้จึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้คอมพิวเตอร์ของเราทำงานได้เร็วขึ้น ไม่เปลืองทรัพยากรไปกับโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้งาน

เราสามารถเข้าไปดูแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้โดยไปที่ Settings >> System >> Apps & Features จากนั้นก็เลือกแอพฯ ที่ไม่ต้องการหรือไม่ได้ใช้แล้วเลือก Uninstall ได้เลย

อย่างไรก็ตามวิธีการข้างต้นเป็นเพียงการจัดการกับการใช้ทรัพยากรภายในเครื่องเท่านั้น ซึ่งหากใครที่ต้องการให้เครื่องคอมพิวเตอร์เร็วและแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดนั้น สำหรับใครที่ยังใช้ฮาร์ดดิส (HDD) อยู่ ก็อาจจะเปลี่ยนมาเป็น SSD แทนซึ่งจะทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็วและไวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และในปัจจุบันราคาของ SSD ก็ถูกลงมากแล้ว รับรองว่าคุ้มค่าที่จะเปลี่ยนแน่นอน

windows 10 ช้าแก้ยังไง แก้เครื่องหน่วง win10 เพิ่มความเร็โน้ตบุ๊ค

ข้อมูลจาก notebookspec.com

5 วิธี แก้คอมช้า Windows 10 เพิ่มความเร็ว จัดการปัญหาเครื่องหน่วง Read More »