Huawei

HarmonyOS ระบบปฏิบัติการใหม่ ดีอย่างไร มีจุดไหนที่แตกต่างจากคู่แข่ง?

สำหรับการนำเสนอ Keynote ในวันนี้ถูกแบ่งออกเป็น 5 ช่วง 5 ประเด็นสำคัญ โดยผู้บริหารระดับสูงของ Huawei รวม 5 ท่าน ได้แก่

Richard Yu ผู้ดำรงตำแหน่ง Executive Director, CEO of Huawei Consumer Business Group
Dr. Wang Chenglu ผู้ดำรงตำแหน่ง President of Software Engineering, Huawei Consumer Business Group
Zhang Ping’an ผู้ดำรงตำแหน่ง President of Huawei Consumer Cloud Service
Shao Yang ผู้ดำรงตำแหน่ง Chief Strategy Officer, Huawei Consumer Business Group
Ai Wei Fellow ผู้ดำรงตำแหน่ง Chipsets and Hardware Technology Strategy, Huawei

ซึ่งไฮไลท์ของ Keynote ในวันนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกเสียจาก HarmonyOS ระบบปฏิบัติการใหม่แห่งอนาคต ที่กำลังถูกจับตามองมากที่สุดในขณะนี้ โดยเบื้องหลังของการพัฒนาระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ก็คือการที่โลกกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่ผู้บริโภคต้องการประสบการณ์การใช้งานจากสิ่งต่างๆ ที่มีความอัจฉริยะ และมีความเป็นองค์รวม ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีระบบปฏิบัติการที่รองรับกับการทำงานบนอุปกรณ์หลากหลายประเภท, สามารถใช้งานได้ในทุกสถานการณ์, รองรับการทำงานบนหลายแพลตฟอร์ม, ตอบสนองได้รวดเร็ว และมีความปลอดภัยสูง

HarmonyOS เป็นระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกับระบบปฏิบัติการ Android และ iOS โดย HarmonyOS มีพื้นฐานการจัดการระบบแบบ Microkernel และเป็นระบบแบบกระจาย (Distributed Operating System) นอกจากนี้ยังมีความปลอดภัยสูง และสามารถใช้งานข้ามอุปกรณ์ได้อย่างสมบูรณ์ นักพัฒนาจึงไม่จำเป็นต้องออกแบบแอปพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน เนื่องจากออกแบบเพียงครั้งเดียว ก็สามารถเข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ได้ทุกประเภท ซึ่ง Huawei กล่าวว่าในอนาคตทุกอุปกรณ์ และทุกกิจกรรมที่ผู้บริโภคทำจะเชื่อมโยงเข้ากันเป็นหนึ่งเดียว เรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการผลักดันแนวคิดของ IoE (Internet of Everything) ที่จะมีการเชื่อมโยงทุกอุปกรณ์เป็นหนึ่งเดียวผ่านระบบอินเทอร์เน็ตให้เป็นจริง ซึ่งโดยสรุปแล้ว HarmonyOS นั้นมีจุดขายสำคัญ 4 อย่างหลักๆ ด้วยกัน ได้แก่

  1. ทำงานได้อย่างต่อเนื่องในทุกอุปกรณ์
  2. ทำงานได้อย่างลื่นไหลบนเทคโนโลยี Deterministic Latency Engine และ High-Performance IPC
  3. มีความปลอดภัยสูง ตั้งแต่แกนระบบ จากการใช้ Microkernel
  4.  พัฒนาแอปพลิเคชันเพียงครั้งเดียวใช้งานได้ทุกอุปกรณ์ ด้วย Multi-Device IDE

ข้อมูลจาก www.thaimobilecenter.com

HarmonyOS ระบบปฏิบัติการใหม่ ดีอย่างไร มีจุดไหนที่แตกต่างจากคู่แข่ง? Read More »

รู้จัก HarmonyOS ระบบปฏิบัติการใหม่แห่งอนาคต พบคำตอบ Huawei สร้าง Ecosystem อย่างไร เพื่อเชื่อมทุกสมาร์ทดีไวซ์ ในทุกสถานการณ์

ปีนี้นับเป็นปีแรกที่งานชุมนุมนักพัฒนางานใหญ่ประจำปีของ Huawei ได้มีการเปิดโอกาสให้สื่อมวลชน และนักพัฒนาจากทั่วโลกมาเข้าร่วม ภายใต้ชื่องานว่า Huawei Developer Conference 2019 (HDC.2019) จากก่อนหน้านี้ที่เปิดโอกาสให้กับสื่อมวลชน กับนักพัฒนาชาวจีนเท่านั้น เพื่อให้นวัตกรรมด้านซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ของ Huawei เอง มีการเผยแพร่ออกไปสู่ระดับโลก เรียกว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยาก ซึ่งสื่อไทย รวมถึงทีมงาน thaimobilecenterของเราก็ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมงานนี้ด้วยเช่นกัน รวมแล้วตลอดระยะเวลาของการจัดงาน 3 วัน ระหว่างวันที่ 9-11 สิงหาคม 2019 ก็จะมีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคของ Huawei กว่า 600 คน กับนักพัฒนา และพันธมิตรทั่วโลกกว่า 6,000 คน มาชุมนุมกันภายในที่เดียว

กับเนื้อหาที่อัดแน่นของ Keynote ในช่วงบ่ายวันนี้ (9 สิงหาคม 2019) ที่ใช้เวลาต่อเนื่องยาวนานร่วม 4 ชั่วโมง ณ สนามกีฬา Dongguan Basketball Center อันมหึมา ในเมืองตงกวน สาธารณรัฐประชาชนจีน ก็ทำให้เราได้เปิดโลกทัศน์ และได้พบกับการเปิดตัวครั้งแรกของระบบปฏิบัติการของ Huawei เอง ที่โลกกำลังจับตามองอย่าง HarmonyOS (หรือที่ในจีนเรียกว่า HongmengOS), ส่วนติดต่อผู้ใช้ใหม่ล่าสุดอย่าง EMUI 10 ที่ถูกยกเครื่องให้ดีขึ้นในหลายๆ จุด รวมถึงวิธีการพัฒนาระบบนิเวศ (Ecosystem) ใหม่ๆ เพื่อการทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อ (Seamless) ของสมาร์ทดีไวซ์ในอนาคต ซึ่งในวันนี้เราก็ได้นำข้อมูลที่น่าสนใจต่างๆ มาสรุปให้ทุกท่านได้ติดตามกันแล้ว

ข้อมูลจาก www.thaimobilecenter.com

รู้จัก HarmonyOS ระบบปฏิบัติการใหม่แห่งอนาคต พบคำตอบ Huawei สร้าง Ecosystem อย่างไร เพื่อเชื่อมทุกสมาร์ทดีไวซ์ ในทุกสถานการณ์ Read More »

เจาะฟีเจอร์ EMUI 10 ประสบการณ์ UX ครั้งใหม่ในสมาร์ทโฟน Huawei เพื่อยกระดับส่วนติดต่อผู้ใช้ขึ้นไปอีกขั้น

ไฮไลท์ของงาน Huawei Developer Conference 2019 ครั้งนี้ นอกจากจะมีการเผยโฉมระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดอย่าง HarmonyOS (HongmengOS) แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือการออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ หรือ UX (User Experience) กับการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้ หรือ UI (User Interface) (UX กับ UI เป็นคนละสิ่งกัน แต่ก็มักจะอยู่คู่กันเสมอ) ที่ใช้งานบนสมาร์ทโฟนของ Huawei เองอย่าง EMUI (Emotion UI) ที่ล่าสุดก็เดินทางมาจนถึงเวอร์ชันที่ 10 แล้ว หรือที่เปิดตัวมาในชื่อว่า EMUI 10 นั่นเอง ซึ่งหากนับกันตั้งแต่เวอร์ชันแรก EMUI นั้นก็อยู่คู่กับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Huawei มาแล้วร่วม 7 ปี เรียกว่าเป็นการปรับแต่งหน้าตาของระบบปฏิบัติการ Android เดิมๆ ให้สวยงาม และเป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากขึ้น โดย Huawei เชื่อเสมอว่า หากมีการปรับแต่งอยู่บนพื้นฐานความต้องการของผู้ใช้งาน ก็จะสามารถช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ในการใช้งานสมาร์ทโฟนที่ดีกว่า จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Huawei พยายามพัฒนา EMUI ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา

ซึ่ง EMUI เวอร์ชันก่อนหน้านี้ต่างก็มาพร้อมจุดขายของตนเอง เริ่มตั้งแต่ EMUI 5.0 ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “Born Fast Stay Fast”EMUI 8.0 ที่มาพร้อมกับระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) กับฟีเจอร์ GPU TurboEMUI 9.0 ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “Enable a Quality Lift” กับการปรับปรุงฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับระบบ AI ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้มากขึ้น และสุดท้ายสำหรับ EMUI 9.1 ก็ถูกปรับแต่งอีกครั้งเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันของเทคโนโลยีใหม่ๆ ไปจนถึงการปรับปรุงฟังก์ชันพื้นฐานให้ดีขึ้น เช่นธีม และไอคอนต่างๆ นั้นถูกอัปเดตใหม่เพื่อให้เข้ากับรูปแบบของการใช้งาน AI ในระดับสูง รวมถึงระบบไฟล์แบบใหม่ที่เรียกว่า EROFS (Extendable Read-Only File System) กับฟีเจอร์ GPU Turbo 3.0 ที่ประสิทธิภาพดีขึ้น และรองรับเกมมากขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ทั้งรูปลักษณ์ กับการใช้งาน

และล่าสุดกับ EMUI 10 นั้นมาพร้อมกับ 4 ไฮไลท์สำคัญคือ New UX Design, Seamless AI Life, Faster and Smoother Operations และ Win-Win Ecosystem โดยพัฒนาอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 Q ที่กำลังจะมาในช่วงเดือนกันยายน 2019 เช่นกัน และเลือกใช้ Ark Compiler เพื่อการทำงานที่ลื่นไหล อีกทั้งนักออกแบบยังพัฒนา UX ของ EMUI 10 นี้ให้สวยงาม และสอดคล้องกับธรรมชาติของมนุษย์มากขึ้นด้วย

โดยทาง Huawei กล่าวว่า EMUI 10 จะเป็นส่วนประสานผู้ใช้แบบ Distributed OS จึงช่วยให้นักพัฒนาสามารถจำลองรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันได้ และจำลองการทำงานต่อเนื่องระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ได้ เสมือนว่านักพัฒนามี Virtual Machine ที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ยังไม่จำเป็นต้องกังวลถึงข้อแตกต่างของฮาร์ดแวร์ เพราะนักพัฒนาสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันเพียงครั้งเดียวแต่รองรับการทำงานร่วมกับทุกอุปกรณ์นอกจากนี้ระบบ Deterministic Latency Engine ยังช่วยลดปัญหาระบบค้างจากการจัดสรรทรัพยากรอย่างไม่เหมาะสมในทุกระดับของซอฟต์แวร์ได้ ช่วยให้ EMUI 10 มีความเสถียรตลอดเวลา

นอกจากนี้สมาร์ทโฟนที่ติดตั้ง EMUI 10 ก็จะมีประสิทธิภาพของการใช้งานแอปพลิเคชันที่ดีขึ้น 60%, ใช้งานได้ลื่นไหลไม่หน่วงยาวนานกว่า 18 เดือน, ระบบไฟล์ EROFS ที่อ่านข้อมูลได้เร็วขึ้น 20%, GPU Turbo ที่มีประสิทธิภาพดีขึ้น 60%, เทคโนโลยี Turbo Link ที่เร็วกว่าการใช้เครือข่าย 4G LTE แต่เพียงอย่างเดียว 70% และอีกหลายๆ สิ่ง ซึ่งก็นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่งาน HDC.2019 ครั้งนี้ทีมงาน thaimobilecenter ของเราได้ร่วมทดลองใช้งานสมาร์ทโฟนที่ติดตั้ง EMUI 10 รุ่นทดสอบ ในระยะเวลาๆ สั้นแล้วด้วยเช่นกัน

ข้อมูลจาก www.thaimobilecenter.com

เจาะฟีเจอร์ EMUI 10 ประสบการณ์ UX ครั้งใหม่ในสมาร์ทโฟน Huawei เพื่อยกระดับส่วนติดต่อผู้ใช้ขึ้นไปอีกขั้น Read More »