กระทรวงการคลัง เผยถึงขั้นตอนการขอรับเงิน 1,000 บาท ท่องเที่ยวนั้น สาระล้วนๆ ขอเสนอ 4 ขั้นตอนในการ ลงทะเบียนขอรับเงิน 1,000 บาท
- ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 24 กันยายน – 15 พฤศจิกายน 2562 หรือจนกว่าสิทธิจะหมด
- ได้รับ SMS ยืนยันหลังจากลงทะเบียนไม่เกิน 3 วันทำการ
- ดาวน์โหลดแอปฯ “เป๋าตัง” เพื่อรับสิทธิตามมาตรการ
- เดินทางท่องเที่ยวและใช้จ่ายได้ ภายใน 14 วัน หลังได้รับ SMSยืนยัน ในจังหวัดที่เลือกไว้ตอนลงทะเบียนเพียง 1 จังหวัด
หากใช้สิทธิไม่ครบตามวงเงิน 1,000 บาท ณ วันสิ้นสุดโครงการ รัฐบาลจะตัดสิทธิทันที
ใครได้เงิน 1,000 บาทบ้าง?
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
- ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน)
- มีบัตรประจำตัวประชาชน
- รับสิทธิ์จำนวน 10 ล้านคนเท่านั้น
รูปแบบการใช้จ่ายวงเงิน 1,000 บาท
ใช้จ่ายผ่านระบบแอปพลิเคชั่น “ถุงเงิน” เท่านั้น หรือร้านค้าที่มีเครื่อง EDC เชื่อมกับธนาคารกรุงไทย โดยสามารถใช้จ่ายเป็นค่าอาหาร เครื่องดื่ม, ค่าซื้อสินค้าท้องถิ่น (OTOP), สินค้าวิสาหกิจชุมชน, ร้านธงฟ้าประชารัฐ รวมถึงค่าที่พัก โฮมสเตย์ ที่ถูกต้องตามกฎหมายตามรายชื่อของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
(ไม่สามารถเบิกออกมาเป็นเงินสดได้)
ขอ Cash Back คืนเงิน 15% จากยอดใช้จ่ายได้
ผู้ที่ลงทะเบียนขอรับเงิน 1,000 บาทเที่ยวทั่วไทย ยังได้รับสิทธิ์ Cash Back สูงสุด 15% ของยอดชำระเงินที่ใช้จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 4,500 บาทต่อคน (วงเงินไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน) สำหรับค่าใช้จ่ายอาหารและเครื่องดื่ม ค่าที่พัก หรือค่าซื้อสินค้าท้องถิ่น (เช่น สินค้า OTOP สินค้าวิสาหกิจ ร้าน THAIDEN ร้านธงฟ้าประชารัฐ) ตั้งแต่วันที่ได้รับ SMS จนถึงวันสิ้นสุดมาตรการ ในจังหวัดที่ไม่ใช่จังหวัดที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
ได้เงินคืนเท่าไหร่?
ยอดใช้จ่าย (บาท) | ได้เงินคืน (บาท) |
1,000 | 150 |
2,000 | 300 |
5,000 | 750 |
7,500 | 1,125 |
10,000 | 1,500 |
15,000 | 2,250 |
20,000 | 3,000 |
30,000 | 4,500 |
สาระสำคัญ
**กระทรวงการคลัง ย้ำจำกัดจำนวนแค่ 10 ล้านคนแรกเท่านั้น!
ข้อมูลจาก sanook